วันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2550

พ่อของฉัน



หนังสือส่งเสริมการอ่าน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕
เรื่อง “พ่อของฉัน”
คุณครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ประกาศหน้าเสาธงทางเครื่องขยายเสียงว่า “สัปดาห์นี้โรงเรียนจะจัดกิจกรรมส่งเสริมภาษาไทย การประกวดเขียนเรียงความและตอบปัญหาเนื่องในโอกาสวันพ่อแห่งขาติ” พร้อมมีรางวัลสำหรับผู้ชนะเลิศด้วย
คุณครูเปิดโอกาสให้นักเรียนทุก ๆ คน ได้ใช้ความคิดของตนเองอย่างเต็มที่โดยไม่จำกัดเนื้อหาสาระ เพื่อให้นักเรียนได้คิดและแสวงหาความรู้เพิ่มเติมด้วยตนเองให้มากที่สุด สาเป็นนักเรียนคนหนึ่งในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ สาคิดถึงพ่อจึงตัดสินใจเขียนเรียงความเกี่ยวกับพ่อเข้าประกวดในครั้งนี้ด้วย สาขึ้นไปอ่านเรียงความให้คุณครูและเพื่อน ๆ ฟังในห้องประชุมของโรงเรียนด้วยเสียงดังชัดเจนว่า “ฤดูหนาวของเดือนธันวาคมลมหนาวพัดโชยมาทั้งกลางวันและกลางคืนหนาวเย็นจับใจ เหมือนลงไปแช่อยู่ในน้ำแข็งอย่างนั้นแหละ ครอบครัวของฉันก็ไม่ต่างจากครอบครัวอื่น ๆ ในหมู่บ้านขวาวโค้ง ซึ่งล้วนแล้วแต่ยากจนหาเช้ากินค่ำ ขาดแคลนไปทุกอย่างและไม่รู้ว่าจะทนหนาวไปได้อีกนานเท่าไหร่ ฉันอาศัยอยู่กับแม่ตั้งแต่เล็ก ๆ จนถึงวันนี้ ฉันโตเข้าโรงเรียนแล้วและกำลังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนบ้านขวาวโค้ง ฉันยังมีน้องเล็ก ๆ ที่ยังไม่ได้เข้าโรงเรียนอีกสองคน ฉันเป็นพี่คนโตจึงต้องทำงานทุกอย่าง เพื่อช่วยแม่หารายได้อีกแรงหนึ่ง ฉันยังจำได้ว่าพ่อจากบ้านไป ทิ้งให้ฉันกับแม่และน้อง ๆ ต้องเผชิญชีวิตอย่างลำเค็ญ
ฉันเคยถามแม่ว่า”พ่อไปไหน แล้วจะกลับมาเมื่อไหร่” แม่กอดฉันแล้วพูดปลอบว่า”พ่อของลูกมีคดีติดตัวถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำในจังหวัด อีกไม่นานพ่อคงจะพ้นโทษและกลับมาอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูก” ฉันถามแม่ต่อไปว่า”นานอีกกี่ปีพ่อจึงจะพ้นโทษ แล้วพ่อเป็นอะไรจึงถูกจับไปขังอยู่ในเรือนจำ”
แม่ลูบศีรษะเบา ๆ ด้วยความสงสารและเข้าใจในความรู้สึกของฉัน แม่บอกว่า”พ่อทำร้ายร่างกานผู้อื่นโดยไม่เจตนา แม่เองก็ไม่รู้รายละเอียดมากนักและก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพ่อจะถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำนานกี่ปี นี่ก็หลายเดือนแล้วไม่มีข่าวคราวจากพ่อเลย”
ฉันมองน้องทั้งสองคนซึ่งนอนหนาวอยู่ข้าง ๆ แม่เอาผ้าห่มที่มีอยู่แค่สองผืนเท่านั้นออกมา แม่กับฉันใช้ผืนเก่าสีซีดและบางเต็มที เวลาลมหนาวพัดมาดูเหมือนว่าไม่ได้ห่มผ้าเอาเสียเลย มันรู้สึกหนาวสะท้านไปทั้งตัว แม่หยิบผ้าห่มอีกผืนหนึ่งซึ่งค่อนข้างหนาและใหม่กว่าห่มให้น้องทั้งสองคนแล้วหันมาพูดกับฉันเบา ๆ ว่า”นอนเถอะลูกดึกมากแล้ว วันพรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียน”
เสียงลมพัดหลังคาบ้านที่มุ่งด้วยหญ้าคาเก่า ๆ ซึ่งจวนจะหลุดเต็มทีเสียงดังหวือ ๆ เป็นระยะ ๆ ฉันนอนฟังเสียงลมกระทบหลังคาบ้าน คิดถึงเหตุการณ์ที่แม่เล่าให้ฟัง ทำให้คิดถึงพ่อและสงสารพ่อมากยิ่งขึ้น อยากให้พ่อกลับมาอยู่กับฉันเร็ว ๆ คงจะทำให้ครอบครัวอบอุ่นมากกว่านี้
ฉันพลิกกายหันไปกอดแม่ ซึ่งเป็นทางเดียวที่พอจะคลายหนาวลงไปได้บ้างจนเผลอหลับไปเมื่อไหร่ฉันก็ไม่รู้ตัวเหมือนกัน
เช้าวันนี้ลมหนาวยังพัดมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ฉันมองออกไปนอกบ้าน เห็นหมอกสีขาวลอยต่ำติดยอดหญ้า ซึ่งมีน้ำค้างจับใบหญ้าอยู่ทั่วไปยิ่งเพิ่มความรู้สึกให้ฉันหหนาวเหน็บมากยิ่งขึ้น แต่ก็ต้องทนเดินฝ่าลมหนาวไปโรงเรียน
ฉันเห็นเพื่อน ๆ หลายคนได้ใส่เสื้อกันหนาวตัวใหม่สีสวย ๆ แม่บอกว่าพ่อของเขากลับมาจากทำงานรับจ้างตัดอ้อยที่จังหวัดชลบุรี และซื้อเสื้อกันหนาวตัวใหม่มาฝาก เพราะเห็นว่าบ้านเราหนาวกว่าทางชลบุรีมาก
แม่บอกฉันว่า รอให้แม่ไปรับจ้างเกี่ยวข้าวที่หมู่บ้านใกล้เคียงเสียก่อน แม่จะพาไปซื้อเสื้อกันหนาวตัวใหม่สีสวย ๆ เหมือนเพื่อน ๆ บ้างและคงจะอบอุ่นขึ้นเยอะทีเดียว
ฉันยังคิดว่า หากวันไหนแม่ไปรับจ้างเกี่ยวข้าว ฉันจะไปช่วยแม่อีกแรงหนึ่งจะได้เงินค่าจ้างเพิ่มขึ้นพอที่จะซื้อเสื้อกันหนาวตัวใหม่ให้กับน้อง ๆ อีกสองคนด้วย ฉันอดคิดถึงพ่อไม่ได้ พ่อก็คงจะหนาวเหมือนกัน ป่านนี้จะเป็นเช่นไรก็ไม่รู้ ฉันอยากให้เพื่อน ๆ รักและเคารพพ่อให้มาก ๆ เมื่อมีโอกาสก็ควรกระทำตนเป็นเด็กดี ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ขยันหมั่นเพียร มีความซื่อสัตย์ ประหยัด อดทนและอดออม ให้พ่อได้ชื่นชมเสียแต่วันนี้ก่อนที่จะไม่มีโอกาส
คำว่า”พ่อแห่งชาติ” ประชาชนทั้งประเทศทราบกันดีว่าในหลวงของเราเป็นศูนย์รวมจิตใจ ยากที่ใครจะปฏิเสธได้ดังคำกล่าวที่ว่า “พ่อหลวงของปวงชน หรือพ่อของแผ่นดิน” นอกจากในหลวงของเราจะทรงเป็นผู้ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้ตกทุกข์ได้ยากและช่วยพัฒนาชาติไทยในทุก ๆ ด้านให้มีความเจริญรุ่งเรืองมั่นคงสืบต่อไปแล้วนั้น ในหลวงของเรายังเปรียบเสมือนพ่อของลูก ๆ ทุกคน ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ทรงอบรมสั่งสอนประชาชนทุกเมื่อเชื่อวัน ให้ลูก ๆ ทุกคนเป็นคนขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด อดทนและอดออม เป็นผู้มีระเบียบวินัยและที่สำคัญต้องมีความจริงใจต่อกัน ช่วยเหลือสงเคราะห์กันและกัน รู้รักสามัคคีหลอดรวมกันไว้เป็นไทยสืบไป
ส่วนฉันในวันนี้ยังไม่มีโอกาสจะได้เห็นหน้าพ่อผู้ให้กำเนิดเลย อย่างมากฉันก็แสดงความรกและความคิดถึงพ่อด้วยตัวหนังสือที่ส่งถึงกัน ฉันไม่รู้สึกอายหรอกที่เพื่อน ๆ รู้ว่าพ่อของฉันอยู่ที่ไหน เพราะว่าทุก ๆ ปีเมื่อถึงวันที่ห้าธันวาคม หรือวันพ่อแห่งชาติ ฉันมีความหวังเสมอว่าใกล้วันที่จะได้พบกับพ่อผู้ให้กำเนิดฉัน ที่พ้นโทษจากการคุมขังด้วยการได้รับอภัยโทษจากในหลวงของเรา เพื่อน ๆ คงรู้ซินะว่าพ่อของฉันอยู่ที่ไหนและแม้จะรออีกนานสักกี่ปี ฉันก็จะรอพ่อจนถึงวันนั้น คือวันที่ฉันรอคอย วันที่พ่อได้รับอิสรภาพจากการอภัยโทษจากในหลวงเป็นครั้งสุดท้าย วันนั้นฉันจะมีทั้งพ่อ แม่ ลูกอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน เป็นครอบครัวที่มีความสุข “พ่อจ๋าฉันจะรอพ่อค่ะ”
สิ้นเสียงอ่านของสา คณะครูและนักเรียนปรบมือเสียงดังก้องไปทั้งห้องประชุม ทุกคนแสดงสีหน้าความเห็นใจและสงสารสาเป็นที่สุด ครูใหญ่มอบรางวัลกล่องใหญ่สีสวยสะดุดตาให้สา พร้อมกับกล่าวชมเชยความสามารถในการเขียนเรียงความ การกล้าแสดงออกและยอมรับสภาพความเป็นจริงของชีวิตโดยไม่น้อยเนื้อต่ำใจใด ๆ เลย จนทำให้เรียงความเรื่อง”พ่อของฉัน” ชนะเลิศการประกวดอย่างภาคภูมิใจสมควรเป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักเรียนทั่วไป
สามองเพื่อนนักเรียนที่มาประชุมกันในงานประกวดเรียงความเนื่องในวันที่ห้าธันวามหาราช สาเหลือบไปเห็นแม่และน้องยืนอยู่หลังสุดของห้องประชุม สาตื่นเต้นมากเพราะแม่ไม่ได้บอกมาก่อนว่าจะมาร่วมงานในวันนี้และแปลกใจมากกว่านั้น สาเห็นชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แม่และน้อง สารู้สึกว่าเหมือนเคยรู้จักกับชายคนนี้มานานแสนนานหัวใจของสาเต้นแรง และตื่นเต้นกับภาพที่ปรากฏต่อสายตาตนเอง สาจึงรีบเดินไว ๆ ไปหาแม่และน้อง ๆ ทันที สาโผกอดชายคนนั้นและพูดออกมาโดไม่ลังเลว่า “พ่อจ๋า”ใช่แล้ววันที่สารอคอยก็มาถึงจริง ๆ สายกมือไหว้ท่วมหัวแล้วมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เห็นในหลวงยิ้มให้ด้วยความเมตตา รอบ ๆ ในหลวงมีรัศมีของแสงสีเงินสีทองแตกกระจายสว่างไสวไปหมด พ่อได้รับอิสรภาพจากการถูกคุมขังในเรือนจำด้วยพระเมตตาจากในหลวงที่ทรงอภัยโทษให้นั่นเอง
พ่อกลับมาเป็นพ่อที่ดีของครอบครัว กลับตัวกลับใจเป็นคนดีและปฏิบัติตามพระบรมราโชวาทในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ได้เคยพระราชทานแก่ปวงชนชาวไทยในตอนหนึ่งว่า”ผู้ที่มีความรู้น้อย แต่มีความซื่อสัตย์ ยังสามารถทำประโยชน์ได้ดีกว่าผู้ที่มีความรู้มาก แต่ไม่มีความซื่อสัตย์” พ่อประกอบอาชีพตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระองค์ท่าน พ่อขยันขันแข็งทำการเกษตรแบบพอเพียง ทำไร่นาสวนผสม ครอบครัวของสาจึงอยู่พร้อมพร้อมตาพ่อ แม่ ลูก พ้นจากความอดอยากยากจน อยู่อย่างมีความสุขด้วยพระบารมีในหลวงของเราตลอดมา


แบบทดสอบท้ายเรื่อง


คำชี้แจง สำหรับนักเรียนฝึกตอบคำถาม หลังจากอ่านจบเรื่องแล้ว

๑. ครอบครัวของสามีกี่คน
๒. ฐานะความเป็นอยู่ของสา เป็นอย่างไร
๓. เพราะเหตุใด พ่อจึงไม่ได้อยู่กับสาและครอบครัว
๔. สาเขียนเรียงความส่งเข้าประกวด ในวันสำคัญอะไร
๕. เพราะเหตุใด สาจึงเขียนเรียงความเรื่องพ่อของฉัน
๖. พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าอย่างไร
๗. ผลการประกวดเรียงความเป็นอย่างไร
๘. เพราะเหตุใดพ่อของสา จึงพ้นโทษก่อนเวลาที่กำหนด
๙. ความต้องการของสา คืออะไร
๑๐. พ่อของสาประกอบอาชีพอะไร หลังพ้นโทษ

ไม่มีความคิดเห็น: